การทำงานของคลัตช์

op1

แผ่นคลัตช์อยู่ระหว่างล้อช่วยแรงกับแผ่นกดคลัตช์ ถูกกดให้ติดแน่นกับ

ล้อช่วยแรงด้วยแผ่นกดคลัตช์และฝาครอบคลัตช์ซึ่งยึดแน่นกับล้อช่วยแรง

หมุนไปพร้อมกับการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง ดังนั้นเมื่อแผ่นคลัตช์ถูก

แผ่นกดคลัตช์อัดแน่นกับล้อช่วยแรง แผ่นคลัตช์จึงหมุนไปพร้อมกับ

เพลาข้อเหวี่ยง และทำให้เพลาคลัตช์ซึ่งสวมอยู่กับแผ่นคลัตช์หมุนตาม

ไปด้วยด้วยเหตุนี้การส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเกียร์จึงเกิดขึ้นได้

โดยอาศัยความฝืดของแผ่นคลัตช์กับล้อช่วยแรงและแผ่นกดคลัตช์

เมื่อเหยียบคลัตช์ โดยขาคลัตช์ถูกกดลง เป็นการตัดการส่งกำลัง

ลูกปืนคลัตช์เลื่อน เข้าหาขาคลัตช์แล้วกดลง ทำให้ปลายด้านนอก

ขาคลัตช์กระดกขึ้น ยกแผ่นกดคลัตช์ให้ถอยออกจากแผ่นคลัตช์

โดยการชนะแรงกดของสปริงกดคลัตช์ ทำให้แผ่นคลัตช์เป็นอิสระ

จึงเป็นการตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังเกียร์ (ชี้ที่ลูกศร)

 

อุปกรณ์กลไกควบคุมการทางานของคลัตช์ (Clutch Control)

อุปกรณ์ที่บังคับให้คลัตช์ทำงาน เพื่อให้คลัตช์จากออกจากหน้าแปลน

ของล้อช่วยแรง เป็นการตัดการทำงานของคลัตช์เพื่อให้เข้าเกียร์

ได้สะดวกขึ้น วิธีการควบคุมการทางานของคลัตช์แบ่งได้ดังนี้


1 แบบกลไก (Mechanical)

c1

เป็นการควบคุมการทำงานของคลัตช์โดยใช้ก้านต่อที่ประกอบด้วย

แป้นเหยียบคลัตช์ ก้านต่อและเพลาขวาง เมื่อเหยียบแป้นเหยียบคลัตช์

ก้านต่อจะดันคานบนไปด้านซ้ายมือ ทำให้เพลาขวางหมุนดันให้คานล่าง

เคลื่อนไปด้านขวามือดันให้ก้านต่อไปดันก้ามปูคลัตช์ กลไกควบคุมแบบนี้

ส่วนมากจะถูกใช้กับพวกรถแทรคเตอร์

 

2 แบบสาย (Sling)

c2

จากรูปข้างบนเป็นการควบคุมการทำงานของคลัตช์โดยใช้อุปกรณ์

สายคลัตช์เป็นตัวควบคุมการทำงานของคลัตช์ การควบคุมแบบนีี้

ส่วนมากจะใช้กับพวกรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

3. แบบไฮดรอลิก (Hydraulic)

c3

จากรูปเป็นการควบคุมการทำงานของคลัตช์โดยใช้ระบบไฮดรอลิกซึ่งเมื่อ

เหยียบแป้นเหยียบคลัตช์แม่ปั๊มคลัตช์จะเพิ่มความดันน้ำมันไฮดรอลิกส่ง

ผ่านท่อน้ำมัน ถ่ายทอดความดันไปยังก้ามปูคลัตช์ ท่อน้ามันไฮดรอลิก

ของคลัตช์ทำด้วยท่อโลหะกันสนิม หรือท่ออ่อน (เลือกที่แม่ปั๊มและลูกปั๊ม

เพื่อศึกษาการทำงาน)