การควบคุมกระบอกสูบทำงานทางเดียวโดยทางตรง
![]()
จากรูปเป็นการควบคุมกระบอกสูบทำงานทางเดียวโดยใช้วาล์ว 3/2
แบบปกติปิด ซึ่งเลื่อนให้วาล์วทำงานโดยปุ่มกด วาล์วเลื่อนกลับโดย
ใช้สปริง
วาล์วไปได้ ในขณะนี้สปริงจะดันให้ลูกสูบเข้าดลอดเวลา
ผ่านไปรู 2 และไปดันให้ลูกสูบเคลื่อนที่ออก (์ชี้ที่รูปมือ)
ปกติ รู 1 ถูกปิด รู 2 ต่อกับรู 3 ซึ่งลมในกระบอกสูบจะระบายออก
ที่รู 3 และปริงก็จะดันให้ลูกสูบเลื่อนเข้า
เมนวาล์ว 1.1 ซึ่งเป็นวาล์ว 3/2 ทำให้ลมผ่านไปดันให้ลูกสูบเคลื่อนที่ออก
เมนวาล์วจะเลื่อนกลับด้วยแรงสปริง ทำให้ลมจากแหล่งจ่ายไม่
สามารถผ่านไปได้ กระบอกสูบซึ่งมีแรงดันสปริงอยู่ภายในก็จะดันก้านสูบ
กลับตำแหน่งในสุด โดยลมในกระบอกสูบจะมาระบายทิ้งที่วาล์ว 1.1
(เลื่อนเม้าท์เข้า-ออกจากรูปมือกด)
สาเหตุที่ใช้การบังคับทางอ้อมก็เนื่องจาก ในวงจรที่ใช้กระบอกสูบ
ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่มากๆ จะต้องการปริมาณลมมากตามไปด้วย
ถ้าใช้วาล์วควบคุมขนาดเล็ก จะทำให้ลมไม่พอไปดันก้านสูบ ทำให้เกิด
อาการกระตุกในการเคลื่อนที่ จึงใช้วิธีการเอาวาล์วตัวเล็กคือวาล์ว 1.2
ไปดันเมนวาล์วตัวใหญ่คือ 1.1 ให้เป็นตัวจ่ายลมแก่กระบอกสูบอีกทีหนึ่ง
จากรูปเป็นการนำวาล์วควบคุมทิศทาง 5/2 ชนิดทำงานด้วยปุ่มกด
และกลับด้วยสปริง มาควบคุมกระบอกสูบชนิดทำงานสองทาง
ไปดันให้ก้านสูบเคลื่อนที่ออก ส่วนลมที่อยู่ด้านก้านสูบจะ
ระบายทิ้งที่รูระบายทิ้งรู 3
ของสปริง ทำให้รูลม 1 ต่อรูลม 2 ไปดันให้ก้านสูบเคลื่อนที่เข้า
จากรูป ลูกสูบจะเคลื่อนที่ออกได้โดยกดวาล์ว 1.2 (ชี้ที่รูปมือด้านซ้าย)
ทำให้ลมผ่านเมนวาล์วทางรูลม 1 ไปยังรูลม 4 ดันให้ลูกสูบเคลื่อนที่ออก
ไปจนสุดระยะชัก
เมนวาล์วจะเคลื่อนที่ทำให้รูลม 1 ต่อกับรูลม 2 ก้านสูบ
จะเคลื่อนที่กลับ ถึงแม้ว่าจะปล่อยมือจากปุ่มกดแล้วก็ตามก้านสูบก็ยัง
เคลื่อนที่กลับจนสุด