วาล์วแบบผสมและอื่นๆ

1. วาล์วหน่วงเวลา (Time delay valve)

ในบางครั้งเรียกวาล์วนี้ว่าวาล์วตั้งเวลา เป็นวาล์วที่ผสมกันระหว่าง

วาล์วปรับอัตราการไหลทางเดียวกับวาล์วควบคุม3ทิศทาง2ตำแหน่ง

แบบปกติปิด วาล์วนี้จะถูกใช้ในวงจรที่ต้องการตั้งเวลาในการทำงาน

tim

      -ขณะปกติ สปริงจะดันให้วาล์วควบคุม3ทิศทาง2ตำแหน่งปิดรูPไว้และเปิดให้

รูAต่อกับรูR

     -เมื่อป้อนสัญญาณลมที่รูZ ลมจะไหลผ่านวาล์วปรับอัตราการไหล

เข้าไปสะสมในห้องพักลม(์ชี้ที่Z)

      -เมื่อลมเต็มห้องพักลม ลมจะดันให้วาล์วเลื่อนไปด้านขวามือ

ลมจากรูP จะไหลผ่านไปยังรูAได้ ส่วนรูRจะถูกอุดตัน (ชี้ที่ลูกสูบ)

      -เมื่อเอาลมสัญญาณควบคุมออกจากรูZ สปริงจะดันให้ลูกสูบเลื่อน

กลับตำแหน่งปกติ (์ชี้ที่สปริง) ลมในห้องพักลมจะดันให้วาล์ว

กันกลับเปิดขึ้น แล้วลมก็จะระบายออกได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องไหล

ผ่านวาล์วปรับอัตราการไหล

   การใช้วาล์วหน่วงเวลาในวงจรนิวแมติก

ti1

      จากรูป เป็นวงจรที่ใช้วาล์วหน่วงเวลาร่วมในวงจรที่ใช้บังคับการทำงานของ

กระบอกสูบแบบสองทาง เมื่อกดวาล์ว 1.2 ก้านสูบจะเคลื่อนที่ออก

และเมื่อก้านสูบไปเตะวาล์ว 1.5 จะไม่เคลื่อนที่กลับทันที ลมที่ผ่านวาล์ว

1.5 จะไปเข้าวาล์วหน่วงเวลา 1.3 ตามที่ตั้งเวลาไว้แล้วจึงจะสั่งให้ก้านสูบ

เคลื่อนที่กลับนั่นหมายความว่า เมื่อก้านสูบเคลื่อนที่ออกจะมา

หยุดอยู่ช่วงหนึ่งก่อน

ti2

      จากรูป เป็นวงจรที่ใช้วาล์วหน่วงเวลาบังคับกระบอกสูบทำงานสองทาง โดย

ตั้งเวลาตั้งแต่ก้านสูบเคลื่อนที่ออกไป เมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ จะกลับทันที

โดยไม่จำเป็นต้องสุดระยะก่อนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่ตั้งไว้

 

2. อุปกรณ์สร้างและหัวจับสูญญากาศ ( vacuum generator and suction cup )

vac

      

การใช้วัสดุจับยึดวัสดุผิวเรียบ หรือชิ้นงานเบาๆ ที่มีผิวเรียบมีใช้กัน

อย่างกว้างขวางในงานส่งถ่ายวัสดุต่างๆนิยมใช้หัวจับสูญญากาศใน

การทำงาน ตามปกติจะต้องมีปั๊มสูญญากาศเพื่อสร้างสูญญากาศป้อน

ให้หัวจับ แต่เพื่อเป็นการลดภาระที่ต้องจัดหาปั๊มสูญญกาศจึงได้มีการนำ

อุปกรณ์สร้างสูญญากาศ(Vacuumgenerator)มาช่วยสร้างสูญญากาศแทน        

หลักการทำงาน : อุปกรณ์สร้างสูญญากาศจะอาศัยหลักการเอาลมอัด

เป่าผ่านคอคอดเพื่อให้บริเวณดังกล่าวเกิดสูญญากาศขึ้น อากาศใน

หัวจับจะถูกดูดออกมาด้วย ดังนั้นในบริเวณดังกล่าวจึงเกิดสูญญากาศขึ้น

ระดับสูญญากาศจะมีค่ามากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับปริมาณความเร็ว

และปริมาณลมอัดที่เป่าผ่านคอคอด นอกจากนั้นแรงของหัวจับจะมีค่า

มากถ้าพื้นที่ในการจับมีมาก

3. ตัวนับ (Counter)

        ในระบบหรือวงจรนิวแมติกบางครั้งอาจจำเป็นต้องมีการนับรอบ

การทำงานของอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งหรือนับจำนวนของชิ้นงานในระบบ

ซึ่งตัวนับจะเป็นอุปกรณ์ที่จะใช้ในการตอบสนองความต้องการดังกล่าว

ตัวนับในระบบนิวแมติกสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทด้วยกันคือ

แบบนับอย่างเดียว กับแบบตั้งจำนวนได้

1. ตัวนับแบบนับอย่างเดียว

ตัวนับแบบนี้ยังสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ประเภท

คือแบบไม่มีรีเซ็ทและแบบมีรีเซ็ท

co

หลักการทำงาน  : สัญญาณลมที่ป้อนเข้าที่ z จะต้องมีการ

เปลี่ยนแปลงแบบ ปิด- เปิดกล่าวคือเมื่อป้อนสัญญาณเข้าที่z

หนึ่งครั้งตัวนับจะนับหนึ่ง เมื่อป้อนสัญญาณลมครั้งที่สอง

ตัวนับจะนับสอง เช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงค่าสูงสุด

ที่ตัวนับจะนับๆได้ ในกรณีที่ตัวนับยังนับไม่ถึงค่าสูงสุด

แต่ต้องการกลับมาเริ่มนับใหม่ ให้ใช้ตัวนับแบบ รีเซ็ท ได้

ซึ่งอาจจะใช้การกดหรือใช้สัญญาณลมก็ได้

 

2. ตัวนับแบบตั้งจำนวนได้

co3

 หลักการทำงาน เช่นเดียวกันตัวนับแบบอย่างเดียว

แต่เมื่อไรก็ตามที่ตัวนับนับถึงค่าที่ตั้งไว้ สัญญาณลมจากรู P

สามารถไหลผ่านไปรู A ได้ ซึ่งสัญญาณที่ใช้นี้สามารถนำ

ไปเลื่อนควบคุมทิศทาง เพื่อนำไปควบคุมการทำงาน

อีกต่อหนึ่งก็ย่อมได้ และในกรณีที่ต้องการกลับมาเริ่ม

นับใหม่ก็สามารถกระทำได้ โดยใส่สัญญาณลมที่รูลม Y

หรือกดปุ่มรีเซ็ทกลับมาเริ่มนับใหม่ก็ย่อมได้

 

   การใช้ตัวนับในวงจรนิวแมติก

cou

       จากรูป  เป็นวงจรที่ถูกออกแบบให้ทำงานแบบอัตโนมัติ

คือเมื่อกดวาล์ว 1.2 ค้างไว้ ลูกสูบจะมีการเคลื่อนที่ออก-เข้าไปเรื่อยๆ

เมื่อจำนวนครั้งที่ลูกสูบเคลื่อนที่ออกครบตามจำนวนที่ตั้งไว้

ตัวนับ(หมายเลข1.7)จะส่งสัญญาณลมผ่านไปยังวาล์หมายเลข1.5

ทำให้เกิดการตัดลมที่จะไปยังหมายเลข1.2 ลูกสูบก็จะหยุดทำงาน

        เมื่อต้องการที่จะเริ่มทำงานอีกครั้งต้องทำการรีเซ็ตที่วาล์ว

หมายเลข1.9หรือกดที่ปุ่มรีเซ็ต